แพทเทิร์นการจัดห้องนอนตามปกติที่เราคุ้นเคยกันดีคือเตียงต้องมีตู้ที่วางไว้บริเวณข้างเตียงทั้งสองฝั่งหรือฝั่งเดียว เอาไว้เก็บของจุกจิกมากมาย แต่บางครั้งห้องนอนของเราก็ดูน่าเบื่อและดูไม่มีอะไรที่น่าสนใจเลยแม้แต่น้อย ถึงอยากจะตกแต่งใหม่แต่ก็ไม่ได้มีกำลังทรัพย์หรือเวลาในการตกแต่งมากมายขนาดนั้น หากคุณมีตู้ข้างเตียงอยู่แล้ววันนี้เรามีวิธีการที่จะทำให้ห้องนอนที่แสนน่าเบื่อของคุณมีสีสันขึ้นมาได้ด้วยการตกแต่งข้างเตียง จะเป็นอย่างไรลองไปอ่านกันเลย
เทคนิคการแต่งตู้ข้างเตียงเพิ่มสีสันให้กับห้องนอน
- สไตล์คลาสสิค หากคุณต้องการจะเปลี่ยนห้องนอนของตนเองให้มีกลิ่นอายความเก่าแบบยุคคลาสสิกสามารถใช้ตู้ที่มีการตกแต่งเป็นพิเศษอย่างเช่นตู้ไม้ที่มีลูกเล่นเป็นคันบังคับเวลาขับเรือ คนเน้นสีสันที่อบอุ่น อยู่ในเอิร์ธโทน จะช่วยเพิ่มความเก๋าให้กับห้องของเรามากยิ่งขึ้น
- สไตล์เรียบหรู สามารถหาโคมไฟที่มีลูกเล่นเพิ่มความเรียบหรูได้เป็นอย่างดีอย่างเช่นโคมไฟที่มีขาตั้งเป็นพลาสติกใสหรือแก้ว หรือจะเป็นโคมไฟแบบระย้าที่ดูมีความสวยงามมากขึ้นก็ได้เช่นเดียวกัน แต่อย่างไรก็ตามควรระวังไม่ให้ห้องของเราหลุดคอนเซปท์จนเกินไป
- สไตล์อินดัสเทรียล ควรเลือกใช้ตู้ที่มีโครงหรือวัสดุในการผลิตเป็นโลหะและเหล็ก แทนวัสดุและโครงที่เป็นไม้ จะช่วยเพิ่มบรรยากาศความเป็นโรงงานให้กับห้องของเราได้มากยิ่งขึ้น หลังจากนั้นก็ตกแต่งด้วยเทียนหอมหรือของโบราณอย่างเช่นโทรศัพท์ยุคเก่า เครื่องเล่นแผ่นเสียงก็สวยงามไม่น้อย
- ของตกแต่งเพิ่มลูกเล่น หลายคนอยากจะตกแต่งห้องนอนแต่ไม่อยากจะเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ก็สามารถใช้ของตกแต่งเพิ่มลูกเล่นได้ไม่ว่าจะเป็นลูกตุ้มเหล็กขนาดใหญ่เอาวางไว้บนตู้หัวเตียง กล้องวีดีโอยุคเก่า การติดไฟเพิ่มอย่างเช่นไฟห้อยจากเพดานแบบหลอดเอดิสัน โคมไฟขนาดใหญ่รูปทรงต่างๆ เพียงเท่านี้ตู้ข้างเตียงของเราก็จะดูมีลูกเล่นมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมเรียบร้อยแล้ว
เลือกตู้ข้างเตียงที่ใช่ เพิ่มความสวยงามและประโยชน์ในการใช้งานมากขึ้น
ตู้ข้างเตียงนั้นเป็นเฟอร์นิเจอร์เล็กๆ ที่มีความสำคัญในห้องนอนของเราเพราะมันใช้เก็บอุปกรณ์มากมายที่เราใช้ในการนอนไม่ว่าจะเป็นผ้าปิดตา หนังสืออ่านก่อนนอน รีโมทเครื่องปรับอากาศ รีโมทโทรทัศน์ ดังนั้นเราจึงควรพิจารณาก่อนซื้อว่าการใช้งานของเรานั้นเป็นอย่างไร หากเราไม่ได้เก็บอะไรที่ตู้ก็สามารถเลือกใช้เป็นโต๊ะธรรมดาสำหรับวางของตกแต่งได้ ราคาของมันก็จะถูกลงมากขึ้น แต่หากต้องการเก็บของก็ต้องพิจารณาว่าของที่เก็บนั้นต้องการความเป็นส่วนตัวหรือการดูแลรักษามากแค่ไหน เมื่อพิจารณาว่าจะใช้ตู้แบบปิดหรือชั้นวางแบบเปิดแทน ดังนั้นก่อนจะซื้อตู้จึงควรพิจารณาการใช้งานและความเหมาะสมในการตกแต่งให้ดีเพื่อที่จะได้ไม่ต้องซื้อใหม่ในภายภาคหน้า
